หน้ากากอนามัยชนิดป้องกันฝุ่น PM2.5 มีลักษณะคล้ายหน้ากากอนามัยทั่วไป แต่มีการบรรจุ ‘แผ่นกรองหลายชั้น’ ที่มีคุณสมบัติในการดักจับและกรองฝุ่นละออง PM2.5 ได้ อีกทั้งบางผลิตภัณฑ์ยังมีการใส่ ‘สารเคลือบชนิดพิเศษ’ ที่ป้องกันจุลินทรีย์ได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีการผลิตแบบ ‘อิเล็กโตรสปินนิ่ง’ ในการพัฒนาเส้นใยนาโนสมบัติพิเศษที่ทำให้ได้เส้นใยขนาดเล็กที่มีลักษณะเป็นรูพรุนขนาดเล็กจำนวนมาก และมีสมบัติสามารถดักจับอนุภาคฝุ่นละออง PM2.5 ได้
หน้ากากอนามัยชนิดป้องกันฝุ่น PM2.5 มีการผลิตออกมาหลากหลายรุ่น หลายแบบเช่นเดียวกัน อาทิ แบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าทั่วไป หรือแบบ 3 มิติ ที่มีความกระชับ แนบสนิทตามรูปใบหน้า
วิธีเลือกซื้อหน้ากากอนามัยกันฝุ่น PM 2.5
- ประสิทธิภาพการกรองฝุ่นโดยฝุ่น PM 2.5 เป็นฝุ่นที่มีขนาดเล็กเพียง 2.5 ไมครอน ดังนั้นควรเลือกซื้อหน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่นขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนได้ โดยหน้ากากอนามัยธรรมดาทั่วไปสามารถกรองฝุ่นขนาด 3 ไมครอน จึงไม่สามารถป้องกันฝุ่น 2.5 ได้
- ผ่านการรับรองหรือได้รับมาตรฐานควรตรวจสอบว่าหน้ากากมีมาตรฐานจากหน่วยงานหรือสถาบันที่เชื่อถือได้รองรับ ซึ่งสังเกตได้จากข้อความบนอุปกรณ์ หรือบรรจุภัณฑ์ โดยมาตรฐานรับรองสำหรับหน้ากากกรองอากาศชนิดกรองอนุภาคที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ ได้แก่ มาตรฐานอเมริกา (NIOSH Standard, NIOSH 42 CFR 84 หรือ ASTM Standard), มาตรฐานยุโรป (European Standard, EN 149) มาตรฐานออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์ (Australia/New Zealand Standard, AS/NZS 1761) และมาตรฐานญี่ปุ่น (Japanese Industrial Standard หรือ JIS)
- N95: เป็นการรับรองของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยรับรองว่าหน้ากากนี้มีประสิทธิภาพในการกรอง 95% (หากเลขมากกว่านั้น เช่น N99 หมายถึง มีประสิทธิภาพในการกรอง 99%)
- ASTM F2299 Level 1 เป็นการรับรองของสมาคม ASTM สหรัฐอเมริกา โดยรับรองว่าหน้ากากนี้มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นขนาด 0.1 ไมครอนได้ ≥95% (หากเป็น Level 2 และ 3 ได้ ≥98%)
- FFP2: เป็นการรับรองของฝั่งยุโรป โดยรับรองว่าหน้ากากนี้มีประสิทธิภาพในการกรอง 94% (หากเป็น FFP3 จะหมายถึง มีประสิทธิภาพในการกรอง 99%)
- P2: เป็นการรับรองของประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ โดยรับรองว่าหน้ากากนี้มีประสิทธิภาพในการกรอง 94% (หากเป็น P3 จะหมายถึง มีประสิทธิภาพในการกรอง 99%)
- JIS T 8151: 2018 เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น โดยรับรองว่าหน้ากากนี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่นละอองในอากาศที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายมนุษย์โดยการหายใจ
- ความกระชับในการสวมใส่ควรเลือกหน้ากากที่สวมใส่แล้วรู้สึกสบายไม่อึดอัดจนเกินไป สายรัดไม่รัดบริเวณหูจนเกิดอาการเจ็บ และเมื่อใส่อย่างถูกต้องแล้ว หน้ากากต้องกระชับแนบสนิทกับใบหน้า มีอากาศรั่วไหลหรือเล็ดรอดจากขอบหน้ากากเข้าสู่ด้านในน้อยที่สุด
อย่างไรก็ดีนอกจากการเลือกซื้อหน้ากากอนามัยที่กรองฝุ่น PM2.5 ได้แล้ว การสวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ เช่น พยายามใส่ให้กระชับแนบสนิทกับใบหน้า ควรใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง ไม่ใช้หน้ากากอนามัยซ้ำเมื่อมีการเปื้อน หรือแผ่นด้านที่สัมผัสผิวถูกเสียดสีจนด้อยสภาพ หน้ากากเสียรูปหรือชำรุด หรือชื้นแฉะ รวมถึงล้างมือก่อนการสวมใส่และหลังการถอดออกทุกครั้ง จะช่วยป้องกันและช่วยกรองฝุ่น PM2.5 ได้ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด